ถ้าไม่มี Donor เหลือ เราทำอะไรกับผมได้บ้าง
เรื่องนี้ต้องขอเกริ่นเป็นความรู้รอบตัวคร่าวๆ ก่อนว่า ผมที่เรานำมาปลูกเนี่ยเรียกว่า Donor Hair ผมประเภทนี้จะมาจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ (Donor Area) และนับว่าเป็นผมถาวร อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ ต่อให้ผมบริเวณอื่นร่วงยังไง ผมบริเวณนี้จะไม่ร่วงหรือร่วงหลังสุดเลย ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อแพทย์เจาะ Donor Hair ออกมาใช้ปลูกผมแล้ว ผมนี้ก็จะไม่งอกกลับขึ้นมาตรงที่เจาะอีก แต่จะขึ้นในบริเวณที่แพทย์นำไปปลูกแทน ในหนึ่งชีวิตของคนเรา แพทย์จะสามารถเจาะผมออกมาด้วยเทคนิค FUE ได้แค่ 5000-6000 กราฟท์ (กอผม) เท่านั้น ถ้าหมดจากนี้ก็จะปลูกผมแบบFUE ไม่ได้แล้ว และนี่คือที่มาของคำถามที่ว่า ถ้าไม่มี Donor เหลือให้ทำ FUE แล้ว สามารถทำอะไรกับผมได้บ้าง
มันคืออีกหนึ่งปัญหาที่เมื่อพบแล้วคนส่วนใหญ่จะเห็นแต่ทางตัน เพราะหลังจากที่คนไข้ปลูกผมไปสองสามรอบแล้ว Donor Hair เริ่มหมด แต่ศีรษะก็ยังคงล้านต่อไปเรื่อยๆ ถ้าต่อจากนี้จะปลูกผมแบบ FUE ไม่ได้แล้ว มาดูกันค่ะ ว่าเราจะทำอะไรให้กับผมเราได้บ้าง
คุณภาพ donor มีผลต่อการปลูกผมหรือไม่
ตอบ มีผลต่อการปลูกผมถาวร เพราะการปลูกผมต้องใช้เส้นผมที่ด้านหลังท้ายทอยหรือเรียกอีกอย่างว่าผมถาวร
‘Donor’ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผมในบริเวณนั้นจะไม่มีวันร่วงหรือจะร่วงช้าที่สุด เหมือนที่เราเห็นผู้ชายหลายๆ คน ส่วนใหญ่คนที่มีศีรษะล้านจะล้านจากด้านหน้าไล่ลงไปทางด้านหลังจนเกือบกลางหัวและจะหยุดเมื่อถึงบริเวณท้ายทอย
ในกรณีที่ลูกค้ามีปัญหาผม Donor ด้านหลังเส้นเล็ก บาง และดูไม่ค่อยแข็งแรง คุณหมอจะแนะนำให้ลูกค้าทานยาเพื่อบำรุงเส้นผมเก่าให้แข็งแรง ก่อนที่จะมาทำการปลูกผม เพราะเส้นผมที่เล็กและบางจะทำให้มีอัตราการรอดหลังปลูกผมค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าลูกค้าท่านไหนใจร้อนไม่อยากรอ ก็สามารถให้คุณหมอเป็นคนประเมินว่าสามารถปลูกได้เลยหรือไม่
ลูกค้าท่านไหนที่เคยปลูกผมถาวรมาหลายรอบแล้วจนผมด้านหลังเริ่มหมด แต่ศีรษะก็ยังคงล้านต่อไปเรื่อยๆ การปลูกผมแบบ FUE อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดอีกต่อไป คุณหมออาจต้องทำการรักษาด้วยวิธีอื่นแทนการปลูกผมถาวรหรือปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคอื่นน่าจะดีกว่า
ก่อนเข้าเรื่อง ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าแพทย์จะแนะนำให้ทานยาป้องกันผมร่วงไปเลยตั้งแต่ผมเริ่มบาง เพราะกันไว้ยังไงก็ดีกว่าแก้ถูกมั้ยคะ จะได้ไม่ต้องมีปัญหามีผมปลูกไม่พอภายหลัง แต่ถ้าปัญหามันมาแล้ว ผมหายไปบางส่วนแล้ว สิ่งที่ทำได้คือ
ทำการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT คือการตัดหนังศีรษะออกมาและทำการหั่นแยกกอผมเพื่อให้ได้กราฟท์ผมสำหรับการปลูก ผลลัพธ์ของการปลูกผมวิธีนี้จะดีเท่าๆ กับการปลูกผมแบบ FUE เลยค่ะ แต่ข้อเสียของเทคนิคนี้ที่หลายๆ คนไม่ชอบคือแผลเป็นหลังจากการปลูกผม เพราะแผลเป็นจากการปลูกผมวิธีนี้มีลักษณะเป็นรอยยาวและเห็นได้ชัดเมื่อไว้ผมสั้น การปลูกผมเทคนิค FUT ยังมีข้อจำกัดว่าทำได้แค่ 2-3 ครั้งเหมือนการปลูกผมแบบ FUE ด้วยนะคะ
การนำผมจากบริเวณอื่นของร่างกายมาปลูก นอกจากผมบนศีรษะแล้ว คุณยังสามารถนำหนวด เครา ขนบริเวณหน้าอก ท้อง หรือบริเวณอื่นๆ ของร่างกายมาปลูกได้ด้วย แต่ลักษณะของขนก็ยังจะเป็นขนอยู่นะคะ อธิบายง่ายๆ คือ ถ้านำขนบริเวณหน้าอกไปปลูก “ผม” ที่จะขึ้นก็จะมีลักษณะเหมือนขนหน้าอก ซึ่งจะมีลักษณะบางและสั้น ไม่ยาวเหมือนผมปกติและไม่ได้ช่วยเรื่องการปกปิดหนังศีรษะได้ดีเท่าการใช้ผมจริงๆ จากบริเวณด้านหลังของศีรษะ ถ้าเป็นไปได้ แพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ทำจนกว่าจะจำเป็นต้องใช้จริงๆ ค่ะ
โกนผมแล้วทำ SMP เป็นวิธีต่อไปหลังจากที่ทำสองข้อแรกไม่ได้แล้ว Donor Hair หมดแล้วจริงๆ การทำ SMP (Scalp Micropigmentation) เป็นอีก 1 ทางออกที่จะทำให้ดูเหมือว่าคุณยังมีผมอยู่ แต่การทำวิธีนี้คุณจะต้องไว้ผมสั้น แบบหัวเกรียนจนเหลือแต่ตอผมเลย เพราะการทำ SMP คือการฝังอณูสีเพื่อจำลองตอผม ทำให้ดูเหมือนว่า “หัวไม่ได้ล้านนะ แค่ชอบโกนผม” การทำ SMP จะทำให้คุณกลับมามีแนวผมที่เข้ากับรูปหน้า ไม่เถิก และช่วยสร้างกรอบหน้าให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่จะไม่ได้ทำให้ผมจริงๆ ของคุณเพิ่มขึ้นหรือหนาขึ้นแต่อย่างใดนะคะ
ใส่วิกผมติดกาว ทำสามข้อที่กล่าวมาไม่ได้แล้ว การโกนก็ผมไม่ใช่แนว สิ่งต่อไปที่จะทำได้ก็คือการใส่วิกผมติดกาวไปเลยค่ะ ถึงจะไม่ใช่อะไรที่ถาวร แต่ก็เป็นอีกทางเลือกที่จะทำให้คุณดูมีผมที่ดกดำได้
หวังว่าทางเลือกต่างๆ ที่ได้แนะนำไปจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจและเป็นทางออกให้กับหลายๆ คนที่เคยปลูกผมมาแล้วนะคะ ยังไงถ้าเกิดไม่แน่ใจว่าจะต้องเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีไหน ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่ Hairtran Clinic กันได้ค่ะจะได้ให้แพทย์ช่วยประเมินผมเบื้องต้นเพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุดด้วยค่ะ
ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953