skip to Main Content

โรคระบาดฝีดาษลิง มีผลกระทบเส้นผมอย่างไร

โรคฝีดาษลิงหรือเรียกอีกอย่างว่า Monkeypox เป็นโรคที่เกิดขึ้นมายาวนานกว่า 20 ปี พบเจอครั้งแรกในแถบแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตกหรือแถบนอกเขตประเทศแอฟริกา เช่น สิงคโปร์ อเมริกา ไทย เป็นต้น หรือมีโอกาสเจอได้ทุกประเทศที่มีการนำเข้าสัตว์ที่ติดเชื้อแบบไม่รู้ตัว วันนี้ทาง Hairtran Clinic จะมาอธิบายถึงโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ให้ฟังว่า ว่าถ้าเกิดเป็นโรคนี้แบบไม่รรู้ตัว โรคฝีดาษลิง ทำให้ผมร่วง ผมบางไหม มีโอกาสหัวจะล้านหรือไม่

ปัจจุบันโรคฝีดาษลิงมีทั้งหมด 2 สายพันธุ์

1. สายพันธุ์แรกคือ West African clade เป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงป่วยแล้วก็หายไวและไม่พบว่ามีคนเสียชีวิตเพราะสายพันธุ์นี้ 

2. สายพันธุ์ที่ 2 คือ Central African clade ซึ่งมีอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์แรก พบผู้ป่วยที่เสียชีวิตเพราะสายพันธุ์นี้ค่อนข้างสูง ลักษณะสัตว์ที่พบเชื้ออยู่ในกลุ่มสัตว์จำพวก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่กัดแทะ เช่น สัตว์จำพวกลิง หนู กระรอก  เป็นต้น สายพันธุ์ Central African clade ที่กำลังเป็นที่ระบาดอยู่ในปี 2565 ตอนนี้ เมื่อทราบถึงประวัติความเป็นมาของโรคชนิดนี้แล้ว ทีนี้เราก็อยากจะให้ทุกคนสังเกตตัวเองเบื้องต้นว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่า

โรคระบาดฝีดาษลิง มีผลกระทบเส้นผมอย่างไร

ลักษณะอาการที่บ่งบอกว่าเราติดโรคฝีดาษลิงหรือเรียกอีกอย่างว่า Monkeypox มีดังนี้

  • ระยะฟักตัว 7-21 วัน  อาการเริ่มแรกจะมีไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ปวดเนื้อปวดตัว
  • ระยะออกผื่นตามตัว คือ หลังมีไข้ประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มสังเกตเห็นตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นลักษณะอาการคล้ายๆ กับคนเป็นโรคอีสุกอีใสหรืองูสวัด เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสตระกูลเดียวกัน มีความแตกต่างกันตรงที่ถ้าฝีดาษลิงจะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโตผิดปกติ จุดนี้เป็นจุดเดียวที่มีความแตกต่างจากสองโรคด้านบน ข้อมูลเหล่านี้เราได้มีการสำรวจมาแล้วว่ามีผลวิจัยยืนยันจากห้องเเล็บของกรมการแพทย์ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์โดยตรง 
  • ระยะรุนแรง สำหรับคนที่เป็นโรคฝีดาษลิงขั้นรุนแรงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ต่อมน้ำเหลืองโต ปอดบวม แล้วได้รับการรักษาไม่ทันเวลาก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคระบาดฝีดาษลิง มีผลกระทบเส้นผมอย่างไร

เมื่ออ่านมากันจนถึงจุดนี้อย่าเพิ่งเครียดกันไปนะคะ ฟังดูอาจจะน่ากลัวแต่จริงๆ แล้วโรคเหล่านี้จะเพาะตัวได้ดีในกลุ่มคนที่มีภูมิอ่อนแอ เครียดสะสม อดนอน หรือกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวอยู่นั่นเอง แต่ไม่ต้องตกใจกันไป เรายังมีวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นโรคฝีดาษลิงดังนี้

วิธีดูแลตัวเองจากการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงหรือเรียกอีกอย่างว่า Monkeypox ง่ายมากๆ เลยมีดังนี้

  • ไม่ทานเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ 
  • ไม่สัมผัสกับสัตว์ป่าทุกชนิด
  • ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปนอกบ้าน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดคนป่วยที่มีอาการไข้หวัดทุกชนิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสตุ่มหนอง หรือ สารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่เป็นโรคฝีดาษลิงโดยตรง 
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษจะสามารถช่วยป้องกันโรคฝีดาษลิงได้
โรคระบาดฝีดาษลิง มีผลกระทบเส้นผมอย่างไร

สรุปง่ายๆ โรคฝีดาษลิงหรือเรียกอีกอย่างว่า Monkeypox ไม่ใช่โรคติดต่อที่เป็นโรคใหม่อะไรทั้งนั้น เป็นเพียงแค่โรคเดิมๆ ที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วจนทำให้เกิดการมองข้ามการดูแลตัวเองจากสิ่งของรอบตัวเรื่องเล็กๆ น้อยๆ โรคนี้เป็นโรคที่ส่งผลกระทบกับทางผิวหนังเท่านั้น ไม่ส่งผลต่อเส้นผมบนหนังศีรษะของผู้ป่วยแต่อย่างไร ดังนั้นคนที่เป็นโรคฝีดาษลิงแล้วหายป่วยก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีปัญหาเส้นผมร่วง ผมบาง ตามหลังมานะคะสบายใจได้  แต่ถ้าผมจะร่วงก็คงมาจากภาวะความเครียดสะสมของตัวผู้ป่วยเองไม่ได้เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงนี้แต่อย่างไร 

เครดิตจาก : กรมการแพทย์ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่ :
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953

Back To Top