แก้ปัญหาหน้าผากกว้างเถิกลึกตั้งแต่เด็ก ด้วยการปลูกผม 2400 กราฟท์
วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์ ปลูกผมครั้งแรกในชีวิตนะครับ เนื่องจากเป็นการโพสอะไรแบบนี้ครั้งแรก อาจจะเขียนได้ไม่ดีพอ หรือยาวไปหน่อย ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ
เริ่มเลยเรามีปัญหาหน้าผากกว้างตั้งแต่เด็กๆ ตามกรรมพันธุ์ ซึ่งเป็นปัญหามาตลอด เวลาต้องตัดผมสั้น หรือตัดผมไปเรียนรด. จะทำให้เสียความมั่นใจมาก แต่พอผ่านมาได้แล้วก็เลยคิดว่าไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ บวกกับช่วงนั้นการปลูกผมยังดูเป็นเรื่องยากสำหรับวัยเรียน จนพอโตขึ้น การพบปะผู้คนหรือการทำงานที่ต้องใช้บุคลิกภาพที่ดี รวมถึงตอนที่ต้องเซ็ตผม หรือตัดผม ด้วยความที่เราหน้าผากกว้างทำให้เราเลือกทรงผมได้น้อยแล้วความไม่มั่นใจก็กลับมาอีก เลยเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการปลูกผม จนตัดสินใจได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะไปปลูกผม ปัญหานี้จะได้หมดไปซักกที
พอตัดสินใจว่าจะปลูกผม ก่อนจะทำก็ศึกษาอยู่นาน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเรา จนตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับทาง hairtrans clinic คุณหมอก็จะให้คำแนะนำ บอกขั้นตอนและวิธีการทำ ก่อนจะประเมินว่าเราจำเป็นต้องปลูกผมทั้งหมดกี่กราฟท์ ( อธิบายก่อนว่า 1 กราฟท์ผม = 1 กอผม ซึ่งใน 1 กอมีเส้นผมประมาณ 1-4 เส้น) โดยใช้เครื่องมือวัดตามสัดส่วนของใบหน้า เพื่อให้ปลูกออกมาแล้วดูสมส่วนใบหน้า ดูเป็นธรรมชาติ หน้าผากไม่แคบไป หรือกว้างไป ตามสัดส่วนใบหน้าของแต่ละคน หลังจากทราบวิธีการและราคา รวมถึงถามคุณหมอทุกเรื่องเหมือนเข้าไปสัมภาษณ์คุณหมอ555 ซึ่งคุณหมอแนะนำดีมากกๆ ให้คำปรึกษาได้ละเอียด ตอบทุกคำถามที่คาใจ และให้เรากลับมาดูรีวิวจากทางคลินิกก่อนจนเริ่มมีความมั่นใจ แล้วหลังจากนั้นก็จองคิวเลย
– งดเหล้า บุหรี่ ประมาณ 2 สัปดาห์ (ใครที่ไม่ทานหรือสูบอยู่แล้วข้ามข้อนี้ไปได้เลยย)
– วิธีการปลูกแบบ FUE การเจาะเอากราฟท์ผมจากด้านหลังศีรษะ เราเลือกว่าจะตัดผมด้านหลังเพื่อให้ง่ายต่อการเจาะกราฟท์ และดูแลรักษาแผลง่าย ซึ่งอันนี้กังวลพอๆ กับการปลูกผมเลย5555 เพราะเป็นการตัดแบบไถเบอร์ 0 ได้ฟีลกลับไปเป็นเด็กนักเรียนอีกครั้ง
ปล.แต่แบบไม่ต้องตัดผมก็มีเหมือนกันนะ สามารถปรึกษาคุณหมอถึงข้อดีข้อเสียแล้วก็เลือกได้ตามใจเลยว่าอยากทำแบบไหน
ส่วนหลังการปลูกผม
– งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ ( ประมาณ 2 สัปดาห์ เหมือนก่อนทำเลย )
– ระวังไม่ให้บริเวณที่ปลูกผมกระแทก หรือโดนอะไร ช่วงแรกที่กราฟท์ผมยังไม่ติดดี
– สระผมได้ด้วยแชมพูเด็ก หรือถ้าใครไม่สะดวกสระเองสามารถเข้าไปใช้บริการที่คลินิกได้นะ
– หลังทำหน้าผากและท้ายทอยจะยังบวมและชาอยู่จากฤทธิ์ของยาชา แต่ไม่นานหลังจากทำอาการก็จะหายไปเอง
พอถึงวันทำ เอาจริงๆก็รู้สึกว่าเตรียมตัวมาค่อนข้างดี แต่สุดท้ายก่อนทำก็ยังกังวลอยู่ดี ( กลัวตอนโดนตัดผมเนี่ยแหละส่วนนึง5555 ) แต่คุณหมอและพี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ช่วยอธิบายและตอบคำถามที่เราสงสัยระหว่างขั้นตอนการทำจนสรุปคุยเพลินๆลืมความกังวลไปเลย555 ไล่เรียงขั้นตอนการปลูกผมให้ทุกคนทราบก่อน
– อันดับแรกเข้าไปวัดสัดส่วนของใบหน้าและแนวผมที่ต้องการตามที่ได้เข้าไปปรึกษากับคุณหมอไว้อีกรอบ เพื่อกำหนดแนวผมในการปลูก สรุปเราปลูกไปทั้งหมด 2400 กราฟท์ ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง
– เสร็จแล้วก็ไปต่อที่การตัดผมด้านหลัง สิ่งที่กังวลรองลงมาจากการปลูกผม 5555 เข้าไปในห้องแยก มีพี่เจ้าหน้าที่เป็นคนตัดผมตัดให้ ซึ่งเราเลือกตัดแค่ข้างหลังด้านเดียว ยังเสียดายผมอยู่กะว่าทนไว้ซักเดือนนึงก็น่าจะกลับมาเป็นทรงเดิม
– ตัดผมเสร็จก็เข้าห้องผ่าตัดทายาฆ่าเชื้อก่อนจะไปฉีดยาชา ซึ่งฉีดยาชาเนี่ยคือขั้นตอนที่เจ็บที่สุดแล้วสำหรับเรา เพราะจะฉีดกระจายหลายจุดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ทั่วบริเวณที่ทำการปลูกผม แต่ก็เจ็บแค่เข็มแรกๆ พอชาแล้วก็ไม่รู้สึกอะไร
– ทายาฉีดยาเสร็จเรียบร้อยก็ต่อด้วยขั้นตอนการเจาะกราฟท์ผมจากด้านหลังศีรษะ เพื่อนำไปคัดแยกกอผมก่อนนำมาปลูกด้านหน้า พอเจาะด้านหลังเสร็จ ติดผ้าก็อตเรียบร้อย ก็จะมีเวลาเบรคให้ออกมาพักทานข้าว ทานน้ำ
– มาถึง part ของการปลูกผมด้านหน้าซึ่งทางคลินิกใช้อุปกรณ์เฉพาะที่ชื่อว่า implanter pen เป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาสภาพของกราฟท์ผมให้สมบูรณ์ เพราะวิธีการใช้คือสามารถเจาะรูพร้อมกับการปลูกกราฟท์ผมลงไปให้ครั้งเดียว ขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานหน่อยเพราะต้องปักทีละกราฟท์เรียงแนวเส้นผมให้สวยงามเป็นธรรมชาติ เวลาน้องขึ้นแล้วจะได้ดูสมจริงตามแนวเส้นผมเดิมที่สุด
เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการปลูกผมทั้งหมด รวมเราใช้เวลาไปประมาณ 7 ชั่วโมง ถือว่าน้อยกว่าที่คิดไว้พอสมควร จากที่ตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลาทั้งวัน
ออกมาแล้วพักดูอาการแปปเดียวกลับบ้านได้เลย ตอนแรกมาคนเดียวไม่กล้าเอารถมากลัวขับกลับไม่ไหว สรุปว่าแทบจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ เดินออกไปเรียกแท็กซี่กลับห้องได้เลย555
หลังจากกลับมาสักพักก็จะมีอาการ คันยุบยิบ ตึงๆ มึนๆหัว ซึ่งเป็นผลจากยาชาที่ยังเหลืออยู่ (ต้องระวังหัวกระแทกด้วยนะ ยังชาหัวอยู่อาจจะกะระยะยากนิดนึง) เราใช้เวลาพักฟื้นอีกวันเดียว เพราะลางานไว้แล้วและต้องไปล้างแผล หลังจากนั้นก็กลับไปทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แค่ช่วงสองอาทิตย์แรกต้องระวังฝุ่น แดด และใส่ผ้าโพกหัวไว้ก่อน ค่อยๆกลับมาออกกำลังกายเบาๆ เพราะต้องระวังเรื่องผม จนกลับมาเตะฟุตบอลหรือว่ายน้ำได้หลังจากผ่านไปสองเดือนแล้ว
สรุป✨ การปลูกผมเป็นการรักษาระยะยาวที่ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ ซึ่งจะเห็นผลเต็มที่ในระยะเวลาประมาณ 1 ปี หลังจากขั้นตอนหัตถการเสร็จก็จะมีการเข้าไป follow up ติดตามผลเป็นระยะๆ ช่วงแรกจะบ่อยหน่อยเพราะรากผมยังไม่แข็งแรง ตามไทม์ไลน์คือ 📌 วันที่ 1 ปลูกผม 📌 วันที่ 2 ล้างแผล ตรวจดูว่ากราฟท์ผมติดดีไหม 📌 1 สัปดาห์ สระผม 📌 2 สัปดาห์ สระผม หมักน้ำมันถูสะเก็ตที่ติดผมออก 📌 1 เดือน ตรวจสภาพผม ใส่หมวกเลเซอร์* 📌 3 เดือน / 6 เดือน / 9 เดือน และ 1 ปี
รูปภาพในโพสจะมีหลายๆ ช่วงเวลาตามระยะที่เข้าไปปลูกผมจนถึงการ follow up เลยลองไปดูกันได้ครับ
ในระหว่างนี้จะมียาให้กลับมาทานทุกวัน เริ่มทานตั้งแต่วันแรกที่ปลูกผมเลย เพื่อบำรุงเส้นผมที่มีอยู่แล้วให้อยู่กับเราไปอีกนานๆ ซึ่งอันนี้จากประสบการณ์ของตัวเองหลังจากทานมาหลายเดือนแล้ว รู้สึกว่าแนวไรผม เส้นผมอ่อนๆ ขึ้นมาเยอะมากจนต้องไปให้ร้านตัดผมกันให้เลย ผมดูหนาด้วยจนพี่ที่ร้านตัดผมทัก555 * หมวกเลเซอร์ เราสามารถเข้าไปใส่ฟรีได้ทุกอาทิตย์เลยแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ช่วยในการกระตุ้นให้รากผมแข็งแรง
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณมากๆครับ เราตั้งใจทำรีวิวไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ หรือให้ความรู้สำหรับคนที่สนใจในการปลูกผม หรือมีปัญหาเรื่องผม สำหรับใครที่มีคำถามหรือข้อสงสัยอยากปรึกษาสามารถถามเรา หรือเข้าไปสอบถามกับทางพี่ๆ ที่ Hairtrans Clinic ได้เลยนะครับ แนะนำคลินิกนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครที่ต้องการปลูกผมหรือปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผมเลย คุณหมอและพี่ๆ ทุกคน ดูแลผมดีมากๆครับ🤍