ทำไมคนผิวสีถึงมีปัญหาผมร่วงคนชาติอื่นๆ
เกาะกระแสข่าวสดที่ตอนนี้เป็นที่โด่งดังไปทั่วทุกมุมโลก คือ โรคผมร่วงเป็นหย่อม หรือ Alopecia Areata เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ Will Smith ได้ขึ้นไปตบหน้า Chris Rock บนเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ ประจำปี 2022 เพียงเพราะ Chris ได้พูดจาล้อเลียนภรรยาของ Will Smith ที่ป่วยเป็นโรค Alopecia Areata จนต้องโกนผมทั้งศีรษะ จึงเป็นเหตุทำให้คนมาสนใจโรคนี้และโรคผมร่วงในคนผิวสีมากขึ้น ว่าโรคเหล่านี้คืออะไร สาเหตุมาจากไหนและมีวิธีแก้ไข้อย่างไร
เริ่มต้นด้วยโรค Alopecia Areata กันก่อน
ตามหลักการทางการแพทย์ โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ จนไปทำลายรากผมและทำให้ผมร่วงในที่สุด ผิวหนังบริเวณนี้จะไม่มีอาการอักเสบหรือเป็นสะเก็ดแต่อาจจะเป็นเพียงอาการคันในบริเวณที่ผมร่วงเท่านั้น ผมหรือขนที่ร่วงแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เครา ใบหน้า คิ้ว ขนตา หรือแม้กระทั้งตามแขน/ขา และสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัยด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติได้นั้นยังไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่จะมีคนบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมสูง เช่น คนที่มีคนในครอบครัวมีประวัติเรื่องภูมิคุ้มกัน คนที่มีประวัติเรื่องภูมิคุ้มกันเอง คนที่มีความเครียดสูง คนที่ทานยาบางชนิด คนที่ได้รับไวรัสบางชนิด หรือแม้กระทั้งคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอก็สามารถมีอาการนี้ได้

ข่าวร้ายคือยังไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ เบื้องต้นแพทย์อาจแนะนำให้รอผมงอกกลับขึ้นมาเอง ถ้าผมไม่กลับขึ้นมาเองอาจจะต้องมีการรักษาจากแพทย์ต่อไปโดยการฉีดสเตียรอยด์ อย่างไรก็ตามหลังจากการรักษาโรคนี้แล้ว โอกาสที่ผมจะกลับมาร่วงเป็นหย่อมก็มีอยู่ดีและจะต้องรักษาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยังไม่มีทางแก้ให้หายขาดได้ มากสุดได้แค่บรรเทาอาการให้ดีขึ้นแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามปัญหาหัวล้านผมบางไม่ใช่เรื่องตลกอยู่ดี
ส่วนโรคที่เกิดขึ้นกับคนผิวสีบ่อยๆ คือโรคที่เรียกว่า Traction Alopecia
ทรงผมอย่างการถักเปียหรือทรงผมที่มีการดึงรั้งรวบตึงเป็นเวลานานๆ ยกตัวอย่างเช่น การถักเปียคอร์นโรล (Cornrows) การถักเปียเดรดล็อค (Dreadlocks) ที่ชาวผิวสีนิยมทำกันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะพื้นฐานของคนชาตินี้เส้นผมหยักศกและฟู ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ใครที่อยากไว้ผมยาวต้องทำการถักผมตัวเองให้เป็นเส้นเล็กๆ เพื่อลดปัญหาการหยิกฟูของเส้นผม บางคนอาจจะมีความสงสัยว่าการถักเดรดล็อคด้วยผมจริงนั้นส่งผลเสียต่อเส้นผมและหนังศีรษะหรือไม่ เดี๋ยวเราจะอธิบายให้เพื่อนๆ ได้รู้ถึงวิธีการทำผมลักษณะนี้กันว่าผลเสียของการทำผมแบบนี้คืออะไร
อันดับแรก วิธีการทำผมแบบเดรดล็อคคือช่างผมจะยีผมและใช้หวีขูดผมก่อนถักเปียโดยการทำให้ผมพันกันจนแน่นเป็นก้อนๆ หลายๆ ช่อและค่อยๆ ถักเป็นเปียจนทั่วทั้งศีรษะ


ทรงผมลักษณะนี้ในช่วงแรกอาจจะดูเก๋ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการดูแลทำความสะอาดเส้นผมแบบเดรดล็อกจะดูแลยากกว่าเส้นผมธรรมดา เพราะว่าการถักพันเส้นผมจนแน่นเป็นก้อน มักจะก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อรากผมโดยตรง ทำให้เส้นผมบริเวณนั้นได้รับผลกระทบจากการดึงรั้งด้วยความรุนแรงเป็นเวลานานๆ จึงทำให้หนังศีรษะและเส้นผมมีอาการอ่อนแอและขาดหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ อีกทั้งการรวบผมให้ตึงมากจนเกินไปก็สามารถส่งผลกระทบให้มีอาการปวดศีรษะตามมาอีกด้วย
การถักเปียคอร์นโรล (Cornrows) และการถักเปียเดรดล็อค (Dreadlocks) เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและฝุ่นละอองต่างๆ ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีอาจจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะและอาจลุกลามไปจนมีอาการคันแดงหรืออักเสบบริเวณหนังศีรษะก็เป็นได้ เห็นไหมคะ ว่าการทำทรงผมลักษณะนี้นั้นมีผลเสียอย่างไร หลังจากอ่านบทความนี้เสร็จแล้วเพื่อนๆ ก็คงทราบสาเหตุเบื้องต้นกันแล้วว่าทำไมคนผิวสีถึงผมหลุดร่วงได้ง่ายกว่าคนแถบอื่น
จริงๆ แล้ว โรค Traction Alopecia ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคนผิวสีเท่านั้น
แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนหลายเชื้อชาติที่ชอบรวบผมหรือถักเปียตึงบ่อยๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมหรือแฟชั่นช่วงนั้นๆ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น กลุ่มคนมุสลิมที่ต้องรวบผมตึงก่อนคลุมผ้า หรือคนที่ถักเปียแน่นๆ ให้เข้ากับแฟชั่นช่วงนั้นๆ จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ผมหลุดร่วงเป็นหย่อมตามจุดที่ถูกดึงนั่นเอง

วิธีสังเกตตัวเองเบื้องต้นว่าเราอยู่ในภาวะผมร่วงหรือยัง?
ปกติแล้วคนเราเส้นผมจะร่วงทุกวัน เฉลี่ยแล้ววันละไม่เกิน 100 เส้น ถ้าใครที่เป็นแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่สังเกตตัวเองและรู้สึกว่าเส้นผมบนหนังศีรษะเริ่มร่วงมากขึ้นเรื่อยๆ เกินกว่า 100 เส้นต่อวัน เช่น อยู่เฉยๆ ก็ร่วง ไดร์ผมเบาๆ ก็ร่วงหรือถ้าสระผมเส้นผมยิ่งร่วงออกมาเป็นกำๆ อันนี้ถือว่าเป็นภาวะผิดปกติ แต่! สำหรับใครที่ไม่ได้ทำความสะอาดเส้นผมมาเป็นเวลานานๆ และกลับมาทำความสะอาดผมครั้งแรกอาจจะทำให้เกิดผมร่วงได้มากถึง 200 เส้นต่อวัน แบบนี้ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ต้องตกใจนะคะ ด้วยรักและห่วงใยจากหมอแพตตี้ Hairtran Clinic เพราะเรื่องเส้นผมไม่ใช่เรื่องตลก เราเลยอยากให้ทุกคนดูดี

ปรึกษาทุกปัญหาเรื่องผมได้ทุกวัน หรือนัดหมายจองคิวล่วงหน้าได้ที่
Line Official Account : @Hairtranclinic
Hot Line : 0619599953